งานสำหรับว่าที่คุณครู ปี 59 มาแล้ว

สพฐ. หรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปิดรับสมัครผู้ที่มีวุฒิการศึกษาครู ระดับปริญญาตรี นับพันอัตรา โดยกำลังเปิดรับสมัครไปจนถึงเดือนเมษายน 2559 สำหรับผู้ที่กำลังหางานครู คราวนี้เป็นโอกาสทองสำหรับทุกคนกันแล้ว แต่สิ่งสำคัญคือ ต้องมีใบประกอบวิชาชีพครูด้วย จึงจะผ่านเงื่อนไขของ สพฐ. สำหรับตำแหน่งครูผู้ช่วยที่จะเปิดรับนั้น ต้องการบุคคลที่จบปริญญาตรีครุศาสตร์ 4 ปี และ 5 ปี หรือวุฒิอื่นๆ ที่สามารถเทียบได้ไม่ต่ำกว่านี้
นอกจาก สพฐ.ที่จะเปิดรับสมัครงานเกี่ยวกับตำแหน่งครูผู้ช่วยแล้ว ยังมีหน่วยงานการศึกษาอื่นที่น้องๆ สามารถหางานครูได้อีก อย่างเช่น กรุงเทพมหานคร ซึ่งมีอัตราจ้างครูเป็นจำนวนมาก และเปิดรับสมัครทุกปี ปีละหลายครั้ง หรือครูผู้ช่วย เทศบาลตำบลส่วนท้องถิ่น ทั่วทุกภูมิภาค ก็เปิดรับสมัครงานครูกันตลอดทั้งปี โดยตำแหน่งครูผู้ช่วยที่เปิดรับสมัครนั้น เต็มไปด้วยสาขาวิชาเอกต่างๆ ดังนั้น น้องๆ ที่เรียนจบสาขาวิชาชีพครูมานั้น ไม่ต้องกังวลกันเลยว่า จะตกงาน

นอกจากครูในภาครัฐแล้ว ยังมีตำแหน่งครูในภาคเอกชน รองรับอยู่อีกหลายร้อย หลายพันโรงเรียน ที่สำคัญเงินค่าตอบแทนก็ไม่น้อยหน้าไปกว่ากัน และยังมีภาครัฐ คอยให้ความช่วยเหลือ ดูแลสวัสดิการอีกด้วย
น้องๆ ที่เรียนจบครูจากสถาบันต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นมหาวิทยาลัยของรัฐโดยตรง หรือมหาวิทยาลัยราชภัฏต่างๆ ทั่วประเทศ หากต้องการหางานครู ก็ทำได้ไม่ยาก ไม่ต้องกังวลว่า เรียนจบจากสถาบันไหน เพราะขึ้นชื่อว่าครู ผู้ที่จะทำหน้าที่ได้ และดี ดูกันที่จิตวิญญาณของความเสียสละ ไม่ได้ดูจากสถาบันการศึกษาเป็นสำคัญ

เซียนโกะ พ่ายแพ้โปรแกรมปัญญาประดิษฐ์ (AI) 3 เกมรวด!!

(ที่มาภาพ: http://www.vcharkarn.com/vnews/504493)
ในยุคสมัยที่เทคโนโลยีพัฒนาอย่างรวดเร็ว และมีทีท่าว่าจะพัฒนาเติบโตต่อไปเรื่อย ๆ ไม่หยุดหย่อนนั้น บริษัทเกี่ยวกับเทคโนโลยีก็ได้มีการพัฒนาโปรแกรมปัญญาประดิษฐ์ หรือ ที่เราเรียกกันสั้น ๆ ว่า “เอไอ” (Artificial Intelligence: AI) ขึ้นมา ซึ่งเจ้า AI ก็คือ โปรแกรมคอมพิวเตอร์หนึ่งที่มีการพัฒนาระบบคอมพิวเตอร์ให้มีพฤติกรรมเหมือนหรือคล้ายคลึงกับคน โดยเฉพาะในส่วนของความสามารถในการเรียนรู้และความสามารถทางประสาทสัมผัส มีการลอกเลียนแบบการเรียนรู้ การตัดสินใจของมนุษย์ การตัดสินใจและการกระทำอย่างมีเหตุผล

สำหรับเจ้า AI หรือโปรแกรมปัญญาประดิษฐ์ ในปัจจุบันนี้ก็ได้มีบริษัทต่าง ๆ ได้ผลิตขึ้นมา เช่น “IBM Watson” ซึ่งเป็น AI ที่ผลิตโดย Bluemix ซึ่งเป็น AI ประเภท Cognitive Computing ซึ่งสามารถเข้าใจภาษามนุษย์ คิด วิเคราะห์ และโต้ตอบกลับได้ ซึ่งเจ้า IBM Watson นี้สามารถชนะในรายการเกมตอบคำถาม Jeopardy ได้ เนื่องจากในระบบมีข้อมูลจำนวนมาก และสามารถประมวลผลออกมาได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย นอกจากนี้ยังสามารถใช้วินิจฉัยโรคมะเร็งปอดได้แม่นยำถูก 90% อีกด้วย เพราะสามารถเก็บรวบรวมข้อมูลและประมวลผลได้อย่างรวดเร็ว

นอกจากg AI “IBM Watson” แล้วก็ยังมี AI อื่น ๆ อีก ซึ่งในที่นี้เราจะพูดถึง AI ที่มีชื่อว่า “อัลฟาโกะ (AlphaGo)” ที่มาจากการพัฒนาของบริษัท DeepMind ที่เป็นบริษัทลูกของ Google ซึ่งเจ้า AI ตัวนี้เป็นโปรแกรมที่ถูกสร้างขึ้นมาในการเล่มเกมโกะ หรือหมากล้อม ซึ่งเป็นเกมหมากกระดานที่ได้รับความนิยมมากในจีน ญี่ปุ่น และเกาหลี โดยเป็นเกมที่ผู้เล่นสองคนจะสลับกันวางหมากสีดำและสีขาวบนตารางเพื่อสร้างพื้นที่ที่ล้อมให้ได้มากที่สุด ซึ่งได้มีการจัดแข่งขันโดยนำเจ้า AlphaGo มาแข่งขันหมากล้อมกับ Lee Sedol เซียนหมากล้อมชาวเกาหลีใต้ที่สามารถกวาดรางวัลระดับนานาชาติมากถึง 18 รายการด้วยกัน โดยในเกมการแข่งขันนี้ เจ้า AlphaGo สามารถเอาชนะ Lee Sedol ไปได้ 3 – 0 เกมเลยทีเดียว ซึ่งนับได้ว่าเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญทางด้านงานเกี่ยวกับโปรแกรมปัญญาประดิษฐ์

ในทางด้านผู้บริหารของ Google ได้ออกมาอธิบายว่า โกะ หรือหมากล้อมนั้นเป็นเกมที่เล่นได้หลากหลายรูปแบบ และคอมพิวเตอร์จะต้องใช้เวลานานในการคำนวณถึงความเป็นไปได้ทุกแบบได้ แต่สำหรับ AlphaGo แล้ว แทนที่จะใช้วิธีคิดคำนวณหนัก ๆ แต่ AlphaGo กลับถูกออกแบบขึ้นให้ใช้วิธีการดูและเก็บข้อมูลการเล่นของมนุษย์ โดยศึกษาจากการเล่นในแมตช์ก่อน ๆ และจากนั้นก็พยายามจะทำตาม จึงทำให้ไม่ต้องประมวลผลหนักมากนั่นเอง
แต่ถึงแม้ AI หรือโปรแกรมปัญญาประดิษฐ์จะเก่งมากแค่ไหน มีข้อมูลเยอะมากเท่าไหร่ แต่สิ่งที่สร้าง AI ขึ้นมานั่นก็คือมนุษย์เรานั่นเอง อีกทั้งมนุษย์เรายังสามารถเก่งและพัฒนาตนเองต่อไปได้อีก โดยการศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ และรู้จักฝึกฝน ก็จะช่วยทำให้เราเก่งขึ้นได้เช่นกัน